Monday 16 January 2017

How to ทำความสะอาดผ้าม่านให้สวยสดใสไร้ไรฝุ่น

5 วิธีทำความสะอาดผ้าม่าน



1. เริ่มจากส่วนบนก่อน
ควรทำความสะอาดด้วยการปัดฝุ่นหรือดูดฝุ่นไล่จากส่วนบนสุดของผ้าม่านก่อน เพราะหากคุณเริ่มทำจากด้านล่าง พอปัดฝุ่นด้านบน สิ่งสกปรกก็จะร่วงลงไปเกาะชายผ้าม่านให้สกปรกอีกครั้งอยู่ดี ดังนั้นจึงต้องปัดฝุ่นจากด้านบนก่อน เพื่อให้ไม่ต้องกลับมาปัดฝุ่นซ้ำอีกรอบ นอกจากนี้ ควรเน้นในส่วนรอยจีบรอยพับของผ้าม่านให้ดี เพราะจะมีฝุ่นเกาะหนาเป็นพิเศษเสมอ

2. ระวังในการใช้ผ้าชุบน้ำ
ถ้าจะใช้ผ้าชุบน้ำเช็ด ก็ต้องดูดฝุ่นให้เรียบร้อยก่อน ไม่อย่างนั้น นอกจากการเช็ดจะไม่ช่วยให้ผ้าม่านสะอาดขึ้นแล้ว ยังเป็นการะละเลงฝุ่นให้รอยเปื้อนติดไปทั่วผ้าม่านอีกด้วย อย่างไรก็ตาม หากผ้าม่านของคุณมีสีอ่อน ควรเลี่ยงการใช้ผ้าชุบน้ำเช็ด เพราะถ้าเกิดรอยเป็นด่างเป็นดวงหลังเช็ดแล้วจะเห็นชัด ทำให้ผ้าม่านดูไม่น่ามอง

3. เลือกวิธีทำความสะอาดโดยดูจากเนื้อผ้า
หากผ้าม่านของคุณมีน้ำหนักเบาจำพวกที่ทำจากผ้าฝ้าย เพียงแค่นำมาสะบัดฝุ่นออก หรือดูดฝุ่นเป็นประจำ ประมาณอาทิตย์ละครั้งก็เพียงพอแล้ว ในขณะเดียวกัน หากผ้าม่านของคุณทำจากผ้าเนื้อหนา ควรส่งร้านซักแห้งที่ไว้ใจได้ให้เป็นคนจัดการจะดีกว่า เพราะผ้าม่านชนิดนี้ต้องใช้การดูแลเป็นพิเศษ อย่างไรก็ตาม หากไม่สะดวก คุณอาจใช้เตารีดไอน้ำแนวตั้งรีดหลังจากดูดฝุ่นแทนก็ได้

4. ตะขอเกี่ยวผ้าม่านก็สำคัญ
ทำความสะอาดผ้าม่านเรียบร้อยแล้ว ก็อย่าลืมทำความสะอาดตะขอเกี่ยวผ้าม่านด้วย เพราะถ้าหากผ้าม่านที่สะอาดแล้ว มาเจอกับตะขอเกี่ยวที่สกปรก ก็จะทำใหผ้าม่านสกปรกอยู่ดี ทั้งนี้ วิธีความสะอาดตะขอเกี่ยวนั้นก็ง่ายแสนง่าย แค่นำไปลวกในน้ำผสมน้ำส้มสายชู ก็จะทำให้ตะขอดูสะอาดแวววาวเหมือนใหม่ได้แล้ว

5. ใส่กลิ่นหอมให้ผ้าม่าน
ไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไรถ้าคุณจะลองฉีดสเปรย์กลิ่นหอม ๆ ที่คุณชอบไว้ที่ผ้าม่าน เพื่อเพิ่มความสดชื่นและบรรยากาศดี ๆ ให้กับห้องของคุณ อย่างไรก็ดี ควรเลือกกลิ่นอ่อน ๆ ที่ไม่มีส่วนผสมของสารเคมีแรง ๆ เพราะเสปรย์บางตัวอาจมีฤทธิ์รุนแรงจนทำให้ผ้าม่านสีเพี้ยนได้

          จำไว้ว่าควรทำความสะอาดผ้าม่านของคุณเป็นประจำ ผ้าม่านจะได้ดูสวยเหมือนใหม่อยู่เสมอ แถมยังช่วยให้ทุกกคนในบ้านมีสุขภาพที่ดี ไม่ต้องทนอยู่กับสิ่งสกปรกอีกด้วย

โดย Ayasan App No. 1 Maid services by 1 click!!
จ้างแม่บ้านรายวัน www.ayasan-app.com
จ้างแม่บ้านประจำ www.ayasan-service.com

No comments:

Post a Comment